แมวไทยโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา
แมวไทยโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา 17 สายพันธุ์ประวัติของแมวไทยที่น่าเชื่อถือ
ได้ตามตำราโบราณได ้จารึกด้วยลายลักษณ์อักษรในสมุดข่อย ได้อ่านดูจะพบว่ามีคำว่าแมว จารึกอยู่ในนั้นด้วย ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ว่ามีแมวไทยโบราณอยู่
ในสมัยนั้น 17 สายพันธุ์ (ชื่อแมวลักษณะตามตำราว่าไว้บทกลอนและรูปแมวอยู่ต่อตอนท้าย
ของเรื่องนี้) และแมวไทยในสมัยนั้นได้หายไปพักหนึ่งจนมาในช่วงหลังรัตนโกสินทร์ในสมัย รัชกาลที่ 5 ได้เริ่มเลี้ยงแมวไทยขึ้นมาอีก แต่คราวนี้แมวที่เลี้ยงจะมีอยู่แต่ในวัง โดยมากจะเป็น แมววิเชียรมาศ ชาวบ้านธรรมดาในสมัยนั้นจะไม่มีสิทธิได้เลี้ยงแมวเลย และก็ไม่มีการซื้อขาย แมวด้วย แต่จะให้เป็นของสำคัญเป็นที่ระลึกเท่านั้น สมัยรัชกาลที่ 5 นี้เอง ได้พระราชทานแมว ไทยพันธุ์วิเชียรมาสเป็นของขวัญให้แก่กงศุลชาวอังกฤษ 1 คู่ตัวผู้กับตัวเมีย และกงศลชาว อังกฤษคนนั้น ได้นำเอาแมววิเชียรมาศกลับบ้านเกิดที่ประเทศอังกฤษ และได้เอาแมวไทยคู่ นั้นลงประกวดแมวทั่วโลกที่คริสตัลพาเลซ ที่ประเทศอังกฤษ ปี 2428 ผลปรากฎออกมาว่า แมววิเชียรมาสหรือเก้าแต้มเป็นแมวของประเทศไทยเราชนะได้รางวัลที่ 1 ประเภทแมว ขนสั้นและในงานครั้งนี้เองทำให้แมวไทยมีชื่อเสียงก้องโลกในฐานะเช่นแมวพันธุ์ดีสวยที่สุด ในโลก และชาวต่างชาติยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าแมวไทยเป็นแมวขนสั้นที่สวยที่สุดในโลก หรือสมญานามที่ว่า "แมวไทยระบือไกลทั่วโลกอีกอย่างหนึ่งทำให้ชาวต่างชาติรู้จัก ประเทศไทย มากขึ้น ถ้าพูดถึงแมววิเชียรมาสของไทยเราตามมาด้วยแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยู่ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ให้เป็นแมวขาวมณี แต่ตามตำราที่จารึกประวัติของแมวไทยในสมัย กรุงศรีอยุธยาทั้ง 17 สายพันธุ์ แมวขาวมณีจะไม่ได้ถูกจารึกเอาไว้ คือจะอยู่นอกตำรา
ในปลายสมัยกรุงรัตนโกสินทร์แมวไทยสมัยโบราณทั้ง 17 สายพันธุ์ได้เริ่มหายสาบสูญ ไปตามกาลเวลาหรือเป็นเหตุที่ว่าในสมัยนั้นแมวที่เคยเลี้ยงอยู่ในวังก็เริ่มลดน้อยลง แต่จะเลี้ยง แมวกระจัดกระจายกันไปทั่วตามที่ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเลี้ยงอยู่ในวัดวาอารามเพื่อป้องกันโจร ขโมยตามบ้านเรือน ทำให้แมวไทยพันธุ์แม้ผสมพันธุ์กันโดยธรรมชาติข้ามสายพันธุ์ ทำให้เกิด แมวไทยเป็นลูกผสมออกมามากมายจากแมวสายพันธ ุ์แท้เดิม 17 สายพันธุ์ ก็เริ่มหายสาบสูญ ไปจนเกือบหมดและได้แมวไทยลูกผสม ออกมาแทน จึงทำให้ในขณะนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ ยังเหลือแมวไทยพันธุ์แม้อยู่เพียง6 สายพันธุ์เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที้ไม่น่า จะเกิดขึ้นเลย ถ้าจะ กล่าวโทษก็ต้องโทษ คนไทยทุกคนที่มองข้าม แมวไทย กลับหันไปมองแมวของประเทศอื่น แต่ในทางกลับกันชาวต่างชาติเริ่มสนใจแมวไทยพันธุ์แท้มากขึ้นและเขาได้เอาแมวไทยของเรา ไปผสมกับแมวของคนต่างชาติจนได้ลูกออกมาคล้ายคลึงกับแมวไทยมากขึ้นและเขาได้จด ทะเบียนให้ชื่อว่าแมวโคราช ซึ่งที่จริงเป็นแมวสีสวาดของไทยเราเป็นของเขา แมวเบอร์มีส ก็คือ ศุภลักษณ์ และแมวแบล็คบอมเบย์ ก็คือแมวโกญจา แต่ถึงอย่างไรเขาจดทะเบียน แมวพันธุ์ ของไทยเป็นแมวของเขาและให้ชื่อแบบของเขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น