วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การเลี้ยงเจ้าแมวของคุน















แมวออกลูก
แมวที่ออกลูกครั้งละ 3 ตัวขึ้นไป หากแม่แมวไม่กินเก่ง หรือแม่แมวไม่อ้วน มีโอกาสที่ลูกแมวจะไม่มีนมกิน และจะตายทั้ง 3 ตัว
แม่แมวที่พิการ หรือมี 3 ขา อาจจะนอนทับลูกคอหักได้
เมื่อแม่แมวออกลูก เพื่อให้แม่แมวมีนมไปเลี้ยงลูกทั้ง 4 ตัว ควรให้กินอาหาร 3 มื้อ และให้กินนมกล่องประมาณ ครึ่งกล่อง และอาจจะให้กินตับไก่ด้วยก็ได้ และควรให้กินน้ำที่สะอาด
ควรเลี้ยงลูกแมวที่เกิดใหม่ไว้ในที่ปลอดภัย อย่าให้แมวที่นิสัยดุเข้าใกล้ จากประสบการณ์ ผมกำลังดูแมวเกิดใหม่ อยู่ดีๆแมวดุก็กระโดดเข้ามา 
กัดคอ ลูกแมวตายต่อหน้าผมเลย แมวที่นิสัยดุ อาจจะเป็นแมวตัวผู้ หรือ แมวตัวเมียที่ทำหมันมานานแล้ว
คอยสังเกตุว่า ลูกแมวตัวไหนดูดนมไม่ทันเพื่อน ให้พยายามดึงแมวที่ดูดเก่งออกมารอประมาณ 20 นาที แล้วจึงนำกลับไปดูดนมต่อ (อย่าลืมนำแมวดูดนมเก่งกลับไปดูดนมต่อนะครับ เพราะถ้าแมวที่ดูดนมเก่งไม่ได้ดูดนม อาจจะอดอาหาร และตายในที่สุด แม้จะดูดเก่งก็ตาม) การสังเกตุนี้ต้องสังเกตุติดต่อกัน 3 เดือนตั้งแต่แรกเกิด ลูกแมวถึงจะไม่ตาย
การเลี้ยงลูกแมวเกิดใหม่ แม้เลี้ยงผ่านมา 1 เดือนแล้ว ดูแข็งแรงดี แต่หากเราไม่เอาใจใส่ ลูกแมวที่แข็งแรงอาจตายได้ (อันนี้เรื่องจริง) เราต้องเอาใจใส่มันทุกวันและทุกตัว หากสังเกตุลูกแมวตัวไหนไม่สบายต้องรีบหาทางแก้ทันที
ดูแลที่อยู่ที่นอนของลูกแมว อย่าให้เปียกชื้น หรือมีกลิ่นเหม็น ควรให้ลูกแมวนอนในกล่องกระดาษที่ปูเศษผ้าไว้พอประมาณ และเปลี่ยนเศษผ้าทุก 2 วัน
หากลูกแมวหรือแม่แมวเป็นหวัดให้อ่านวิธีแก้ในหัวข้อ โรคของแมว
ลูกแมวต้องเลี้ยงเกิน 2 เดือนจนกระทั่งตัวโต จึงจะเริ่มให้อาหารได้ ก่อนเริ่มให้อาหาร 1 สัปดาห์ ควรหัดให้เลียน้ำด้วยตัวเองก่อน ในการให้อาหาร อย่าให้อาหารที่ชิ้นโต เพราะอาจติดคอลูกแมวตายได้ (หลังจากลูกแมวตายผมเห็น ฮ็อทด็อก ไหลออกมาจากคอ ผมไม่น่าป้อน ฮ็อทด็อก มันเลย)
แม้แมวที่เกิดจะเป็นแมวดำก็อย่ารังเกียจมัน ตอนนี้ผมก็เลี้ยงอยู่ 2 ตัว มันเป็นลูกของไอ้สีสวาท
ฯลฯ
การทำหมันแมว
ควรนำแมวตัวเมียไปผ่าตัดทำหมัน (เสียเงินประมาณ 600 บาท) อย่าใช้วิธีฉีดยา แมวที่ฉีดยา(ทุกแบบที่เกี่ยวกับทำหมัน)จะเฉาตายภายใน 2 เดือน (จากประสบการณ์)
ควรทำหมันแมวหลังจากแมวออกลูกแล้ว 2 เดือน และก่อนที่มันจะผสมพันธ์ และไม่ควรทำหมันแมวที่ยังเด็ก ควรให้มันเป็นแมวผู้ใหญ่ก่อนแล้วจึงนำไปผ่าตัดทำหมัน
ที่อยู่อาศัยของแมว
ตอนกลางวันควรให้แมวอยู่อย่างอิสระ ในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ ตอนกลางคืนควรขังรวมกันไว้ในกรง
กรงแมวต้องมีขนาดใหญ่ (1x1x1 เมตร) และมี 2 ชั้น ดังรูป

แมวไทยสุดน่ารัก



ประวัติแมวไทย

















  แมวไทยโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา 17 สายพันธุ์ประวัติของแมวไทยที่น่าเชื่อถือ
ได้ตามตำราโบราณได ้จารึกด้วยลายลักษณ์อักษรในสมุดข่อย ได้อ่านดูจะพบว่ามีคำว่าแมว จารึกอยู่ในนั้นด้วย ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ว่ามีแมวไทยโบราณอยู่
ในสมัยนั้น 17 สายพันธุ์ (ชื่อแมวลักษณะตามตำราว่าไว้บทกลอนและรูปแมวอยู่ต่อตอนท้าย
ของเรื่องนี้) และแมวไทยในสมัยนั้นได้หายไปพักหนึ่งจนมาในช่วงหลังรัตนโกสินทร์ในสมัย รัชกาลที่ 5 ได้เริ่มเลี้ยงแมวไทยขึ้นมาอีก แต่คราวนี้แมวที่เลี้ยงจะมีอยู่แต่ในวัง โดยมากจะเป็น แมววิเชียรมาศ ชาวบ้านธรรมดาในสมัยนั้นจะไม่มีสิทธิได้เลี้ยงแมวเลย และก็ไม่มีการซื้อขาย แมวด้วย แต่จะให้เป็นของสำคัญเป็นที่ระลึกเท่านั้น สมัยรัชกาลที่ 5 นี้เอง ได้พระราชทานแมว ไทยพันธุ์วิเชียรมาสเป็นของขวัญให้แก่กงศุลชาวอังกฤษ 1 คู่ตัวผู้กับตัวเมีย และกงศลชาว อังกฤษคนนั้น ได้นำเอาแมววิเชียรมาศกลับบ้านเกิดที่ประเทศอังกฤษ และได้เอาแมวไทยคู่ นั้นลงประกวดแมวทั่วโลกที่คริสตัลพาเลซ ที่ประเทศอังกฤษ ปี 2428 ผลปรากฎออกมาว่า แมววิเชียรมาสหรือเก้าแต้มเป็นแมวของประเทศไทยเราชนะได้รางวัลที่ 1 ประเภทแมว ขนสั้นและในงานครั้งนี้เองทำให้แมวไทยมีชื่อเสียงก้องโลกในฐานะเช่นแมวพันธุ์ดีสวยที่สุด ในโลก และชาวต่างชาติยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าแมวไทยเป็นแมวขนสั้นที่สวยที่สุดในโลก หรือสมญานามที่ว่า "แมวไทยระบือไกลทั่วโลกอีกอย่างหนึ่งทำให้ชาวต่างชาติรู้จัก ประเทศไทย มากขึ้น ถ้าพูดถึงแมววิเชียรมาสของไทยเราตามมาด้วยแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยู่ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ให้เป็นแมวขาวมณี แต่ตามตำราที่จารึกประวัติของแมวไทยในสมัย กรุงศรีอยุธยาทั้ง 17 สายพันธุ์ แมวขาวมณีจะไม่ได้ถูกจารึกเอาไว้ คือจะอยู่นอกตำรา

          ในปลายสมัยกรุงรัตนโกสินทร์แมวไทยสมัยโบราณทั้ง 17 สายพันธุ์ได้เริ่มหายสาบสูญ ไปตามกาลเวลาหรือเป็นเหตุที่ว่าในสมัยนั้นแมวที่เคยเลี้ยงอยู่ในวังก็เริ่มลดน้อยลง แต่จะเลี้ยง แมวกระจัดกระจายกันไปทั่วตามที่ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเลี้ยงอยู่ในวัดวาอารามเพื่อป้องกันโจร ขโมยตามบ้านเรือน ทำให้แมวไทยพันธุ์แม้ผสมพันธุ์กันโดยธรรมชาติข้ามสายพันธุ์ ทำให้เกิด แมวไทยเป็นลูกผสมออกมามากมายจากแมวสายพันธ ุ์แท้เดิม 17 สายพันธุ์ ก็เริ่มหายสาบสูญ ไปจนเกือบหมดและได้แมวไทยลูกผสม ออกมาแทน จึงทำให้ในขณะนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ ยังเหลือแมวไทยพันธุ์แม้อยู่เพียง6 สายพันธุ์เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที้ไม่น่า จะเกิดขึ้นเลย ถ้าจะ กล่าวโทษก็ต้องโทษ คนไทยทุกคนที่มองข้าม แมวไทย กลับหันไปมองแมวของประเทศอื่น แต่ในทางกลับกันชาวต่างชาติเริ่มสนใจแมวไทยพันธุ์แท้มากขึ้นและเขาได้เอาแมวไทยของเรา ไปผสมกับแมวของคนต่างชาติจนได้ลูกออกมาคล้ายคลึงกับแมวไทยมากขึ้นและเขาได้จด ทะเบียนให้ชื่อว่าแมวโคราช ซึ่งที่จริงเป็นแมวสีสวาดของไทยเราเป็นของเขา แมวเบอร์มีส ก็คือ ศุภลักษณ์ และแมวแบล็คบอมเบย์ ก็คือแมวโกญจา แต่ถึงอย่างไรเขาจดทะเบียน แมวพันธุ์ ของไทยเป็นแมวของเขาและให้ชื่อแบบของเขา
        

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แมวไทยโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา


แมวไทยโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา








แมวไทยโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา 17 สายพันธุ์ประวัติของแมวไทยที่น่าเชื่อถือ
ได้ตามตำราโบราณได ้จารึกด้วยลายลักษณ์อักษรในสมุดข่อย ได้อ่านดูจะพบว่ามีคำว่าแมว จารึกอยู่ในนั้นด้วย ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ว่ามีแมวไทยโบราณอยู่
ในสมัยนั้น 17 สายพันธุ์ (ชื่อแมวลักษณะตามตำราว่าไว้บทกลอนและรูปแมวอยู่ต่อตอนท้าย
ของเรื่องนี้) และแมวไทยในสมัยนั้นได้หายไปพักหนึ่งจนมาในช่วงหลังรัตนโกสินทร์ในสมัย รัชกาลที่ 5 ได้เริ่มเลี้ยงแมวไทยขึ้นมาอีก แต่คราวนี้แมวที่เลี้ยงจะมีอยู่แต่ในวัง โดยมากจะเป็น แมววิเชียรมาศ ชาวบ้านธรรมดาในสมัยนั้นจะไม่มีสิทธิได้เลี้ยงแมวเลย และก็ไม่มีการซื้อขาย แมวด้วย แต่จะให้เป็นของสำคัญเป็นที่ระลึกเท่านั้น สมัยรัชกาลที่ 5 นี้เอง ได้พระราชทานแมว ไทยพันธุ์วิเชียรมาสเป็นของขวัญให้แก่กงศุลชาวอังกฤษ 1 คู่ตัวผู้กับตัวเมีย และกงศลชาว อังกฤษคนนั้น ได้นำเอาแมววิเชียรมาศกลับบ้านเกิดที่ประเทศอังกฤษ และได้เอาแมวไทยคู่ นั้นลงประกวดแมวทั่วโลกที่คริสตัลพาเลซ ที่ประเทศอังกฤษ ปี 2428 ผลปรากฎออกมาว่า แมววิเชียรมาสหรือเก้าแต้มเป็นแมวของประเทศไทยเราชนะได้รางวัลที่ 1 ประเภทแมว ขนสั้นและในงานครั้งนี้เองทำให้แมวไทยมีชื่อเสียงก้องโลกในฐานะเช่นแมวพันธุ์ดีสวยที่สุด ในโลก และชาวต่างชาติยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าแมวไทยเป็นแมวขนสั้นที่สวยที่สุดในโลก หรือสมญานามที่ว่า "แมวไทยระบือไกลทั่วโลกอีกอย่างหนึ่งทำให้ชาวต่างชาติรู้จัก ประเทศไทย มากขึ้น ถ้าพูดถึงแมววิเชียรมาสของไทยเราตามมาด้วยแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยู่ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ให้เป็นแมวขาวมณี แต่ตามตำราที่จารึกประวัติของแมวไทยในสมัย กรุงศรีอยุธยาทั้ง 17 สายพันธุ์ แมวขาวมณีจะไม่ได้ถูกจารึกเอาไว้ คือจะอยู่นอกตำรา

ในปลายสมัยกรุงรัตนโกสินทร์แมวไทยสมัยโบราณทั้ง 17 สายพันธุ์ได้เริ่มหายสาบสูญ ไปตามกาลเวลาหรือเป็นเหตุที่ว่าในสมัยนั้นแมวที่เคยเลี้ยงอยู่ในวังก็เริ่มลดน้อยลง แต่จะเลี้ยง แมวกระจัดกระจายกันไปทั่วตามที่ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเลี้ยงอยู่ในวัดวาอารามเพื่อป้องกันโจร ขโมยตามบ้านเรือน ทำให้แมวไทยพันธุ์แม้ผสมพันธุ์กันโดยธรรมชาติข้ามสายพันธุ์ ทำให้เกิด แมวไทยเป็นลูกผสมออกมามากมายจากแมวสายพันธ ุ์แท้เดิม 17 สายพันธุ์ ก็เริ่มหายสาบสูญ ไปจนเกือบหมดและได้แมวไทยลูกผสม ออกมาแทน จึงทำให้ในขณะนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ ยังเหลือแมวไทยพันธุ์แม้อยู่เพียง6 สายพันธุ์เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที้ไม่น่า จะเกิดขึ้นเลย ถ้าจะ กล่าวโทษก็ต้องโทษ คนไทยทุกคนที่มองข้าม แมวไทย กลับหันไปมองแมวของประเทศอื่น แต่ในทางกลับกันชาวต่างชาติเริ่มสนใจแมวไทยพันธุ์แท้มากขึ้นและเขาได้เอาแมวไทยของเรา ไปผสมกับแมวของคนต่างชาติจนได้ลูกออกมาคล้ายคลึงกับแมวไทยมากขึ้นและเขาได้จด ทะเบียนให้ชื่อว่าแมวโคราช ซึ่งที่จริงเป็นแมวสีสวาดของไทยเราเป็นของเขา แมวเบอร์มีส ก็คือ ศุภลักษณ์ และแมวแบล็คบอมเบย์ ก็คือแมวโกญจา แต่ถึงอย่างไรเขาจดทะเบียน แมวพันธุ์ ของไทยเป็นแมวของเขาและให้ชื่อแบบของเขา

แมวพันธุ์ เมนคูน (MAINE COON)





แมวพันธุ์ เมนคูน (MAINE COON) ประวัติที่มา




เป็นแมวลูกผสมที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกา เชื่อกันว่าเกิดจากแมวที่ผสมพันธุ์กันในอเมริกา
มีการบันทึกกันไว้ว่า พระนางมารี อังตัวเน็ต พระราชินีของ พระราชาฝรั่งเศส ได้ส่งทั้งของและเจ้าพวกสัตว์เลี้ยง เช่น แมวเมนคูน ของพระนางไปก่อนล่วงหน้าก่อน ตอนที่พระนางเตรียมหนี จากพวกปฏิวัติในฝรั่งเศส เข้ามหาสมุทรแอตแลนติกไปอเมริกา
ต้นชื่อที่เรียกว่า เมน นั้น เพราะแม่พันธุ์นี้ ได้พบกันครั้งแรกตอนที่มันมาขึ้นฝั่ง ที่รัฐ ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ด้านอเมริกาเหนือคือ รัฐเมน ส่วนชื่อ คูน ท่อนหลังนั้นน่า จะมาจากพวงหาง ของเจ้าแมวพันธุ์ที่ว่าที่มีหางเป็นพวงเหมือนตัวแรคคูนที่มีอยู่ในทวีปอเมริกา
เจ้าแมวเมนคูน เป็นแมวที่ได้จากการผสมของตัวแรคคูน กับแมวบ้าน จึงมีชื่อว่า
" MaineCoon "
ซึ่งมาจากชื่อเมือง Maine กับคำว่า Raccoon
ลักษณะโดยทั่วไป
แมวเมนคูน เป็นแมวช่างสงบเสงี่ยม มีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง จัดเป็นแมวที่มีพละกำลังมากพันธุ์หนึ่งและมีลักษณะนุ่มนวล เป็นมิตรกับผู้คน
ลักษณะประจำพันธุ์
เป็นแมวที่มีลำตัวหนาหนักแน่น รูปร่างค่อนข้างใหญ่ ผิวขนคล้ายเชือกพันเป็นเกลียว( มองดูคล้ายแมวพันธุ์เปอร์เซีย ) มีขนขึ้นปกคลุมหนาแน่น ขนยาวไม่มากนัก บางตัวอาจมีขนาดใหญ่น้ำหนักตัวถึง 13.5 กิโลกรัม
หัวมีขนาดกลาง หน้าเป็นเหลี่ยม ใบหน้าราบแบน แก้มอยู่ในตำแหน่งที่สูง มีโครงกระดูกแก้มใหญ่ มีหูใหญ่และเป็นแมวที่มีรูปร่างสูง ตายาวติดกับบริเวณช่องจมูก จมูกเล็ก ช่วงขาแข็งแรง เท้ากลมมน ขนยาวและมีน้ำหนัก ลักษณะขนที่มีน้ำมันในตัวจึงไม่ค่อยเปียกน้ำ ปลายหางขนหยาบ ขึ้นหนาแน่นรกรุงรัง แต่ขนไม่ยาวนัก
บริเวณรอบลำคอ โคนใบหูขนมักพันเป็นกระจุก สีต้นตระกูลของแมวนี้ ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเงิน สีเหลือง ลูกนัยน์ตาเป็นรูปไข่ลาดเอียง ลูกนัยน์ตาสีเขียวเป็นประกาย

ลักษณะนิสัย

นิสัยมีความเป็นเด็กตลอดชีวิต ใบหน้ายังคงมีความเป็นแมวป่า มีแผงคอคล้ายสิงโต ฐานหูกว้างใหญ่ ปลายหูจะมีเส้นขนเป็นจะงอยออกมา มองจากด้านข้างลำตัวจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ขนกึ่งยาวไม่ฟูตั้งตกตามลำตัว เส้นขนใหญ่มีน้ำหนัก หางยาวมีวงเป็นปล้องเหมือนหางแรคคูน ถ้าเป็นสีลายเสือ จะต้องมีลายรอบวงหางตลอด ความยาวจากจมูกถึงปลายหางประมาณ 1 เมตร



ลักษณะทั่วไป

เป็นแมวที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ตายาวติดกับบริเวณช่องจมูก จมูกเล็ก ช่วงขาแข็งแรง เท้ากลมมน ขนยาวและมีน้ำหนัก ลักษณะขนที่มีน้ำมันในตัวจึงไม่ค่อยเปียกน้ำ ปลายหางขนหยาบ ขึ้นหนาแน่น แต่ขนไม่ยาวนัก บริเวณรอบลำคอถึงโคนใบหูขนมักพันเป็นกระจุก สีต้นตระกูลของแมวนี้ ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเงิน สีเหลือง ลูกนัยน์ตาเป็นรูปไข่ลาดเอียง และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกสภาพอากาศ เมื่ออากาศหนาวเย็นจะมีขนที่หนาขึ้น และเมื่ออากาศร้อนขนจะบางลง



ลักษณะตามมาตรฐานสายพันธุ์


หัวมีขนาดใหญ่สมส่วน โหนกแก้มสูง รูปหน้ายาวปานกลาง ดูเป็นทรงเหลี่ยม
ใบหูตั้งชี้เรียวแหลม มีขนที่ปลายหูเหมือนแมวป่า
ดวงตากลมโต สีเขียว ทอง ทองแดง พบตาสีฟ้าบ้างในเหมียวที่มีขนสีขาว
ขนเป็นประเภทขนกึ่งยาว มีขนปกคลุมหนาแต่ไม่พันกันยุ่งขนส่วนหัว คอ
และไหล่จะไม่ยาวมาก จะไล่ความยาวจากส่วนหลัง ส่วนท้องไปจนถึงสีข้าง
และหาง ตัวผู้จะมีขนคอที่หนากว่าตัวเมีย
ขาแข็งแรง ความยาวได้สัดส่วนกับลำตัว อุ้งเท้าใหญ่ เท้าหน้าจะมีนิ้วข้างละ 5 นิ้ว
ส่วนเท้าหลังมีข้างละ 4 นิ้ว
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของจ้าตัวใหญ่

การให้อาหารตามปกติอาจยังไม่พอ ควรให้อาหารเสริมแก่เจ้าตัวโตด้วยเนื้อสัตว์
โปรตีนสูงไขมันต่ำ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อเจ้าเหมียวให้ล่ำบึ้ก

เมนคูน เป็นแมวที่ไม่ค่อยมีปากเสียงมากนัก คุณสามารถหาเห็บ หมัด เช็ดหู
สางขน โดยไม่ปริปากบ่นรำคาญเลย แถมยังชอบอีกด้วย
แมวกึ่งขนยาวแบบเมนคูนจะไม่มีปัญหาขนพันกันยุ่งแบบแมวขนยาวอย่างเปอร์เซีย การดูแลจึงทำได้ง่ายขึ้น

มิสซิสนอริส
จากภาพยนตร์ แฮรี่ พอตเตอร์ นี่ก็เป็นพันธุ์เมนคูนเหมือนกัน

ถ้าคุณอยากเลี้ยงสุนัขในเวอร์ชั่นของแมว เมนคูนนั้นคือคำตอบ เพราะหน้าแมวแต่ร่างกายสุนัข ขี้เล่น เดินตามเจ้าของ กระทั่งได้สมญานามว่า GENTEL GIANT เจ้ายักษ์ใหญ่ใจดี และสำหรับผู้ที่อยากได้มาเป็นเจ้าของ คงต้องควักเงินในหลักครึ่งแสนกันเลยทีเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กีต้าร์

                                                   กีต้าร์ 

ตัวสวยของพี่ยอด



วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ยินดีต้อนรับสู่ ข่าวด้านเทคโนโลยีใหม่